การ จูงใจ ใน การ ทํา งาน - แรง จูงใจ ใน การ ทํา งาน วิจัย 2559
ความปรารถนาที่จะมีกิจกรรม มนุษย์มีธรรมชาติที่ไวต่อแรงกระตุ้น ชอบความกระฉับกระเฉง สนุกสนานในการใช้ชีวิต ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจน่าเบื่อหน่าย ฉะนั้น องค์กรควรจะจัดสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน ให้มีกิจกรรมที่กระตุ้นความกระตือรือร้น หรือสร้างความรู้สึกตื่นเต้นท้าทายทั้งกายและใจ มีเป้าหมายใหม่ๆ ที่เชิญชวนให้พนักงานมีส่วนร่วม และอย่าลืมเพิ่มความสนุกและหลากหลายเข้าไปด้วย 2. ความปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของ ในสังคมยุคนี้ การเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ กลายเป็นเครื่องวัดความมีคุณค่าของตนเอง ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่สิ่งที่เป็นเงินทองหรือวัตถุ ความเป็นเจ้าของทางจิตใจอาจจะมีความสำคัญยิ่งกว่า ฉะนั้น ควรให้โอกาสพนักงานได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ รับรู้คุณค่าของทักษะและประสบการณ์ของพนักงานแต่ละคน เช่น ให้แสดงความคิดเห็นว่าจะปรับปรุงการทำงานได้อย่างไร ให้โอกาสเลือกตัดสินใจด้วยตนเองมากขึ้น และเมื่อองค์กรประสบความสำเร็จก็ประกาศให้พนักงานรับรู้ว่าผลงานของพวกเขามีความสำคัญเพียงไร 3. ความปรารถนาที่จะมีอำนาจ จริงๆ แล้วผู้คนต้องการมีทางเลือก ต้องการที่จะควบคุมชะตาชีวิตตัวเอง ปัจจุบัน พนักงานต้องการความอิสระในการตัดสินใจมากกว่าการทำตามคำสั่ง ฉะนั้น บริษัทจึงควรจะสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมให้มีการมอบอำนาจแก่พนักงานมากขึ้น ให้พวกเขารับผิดชอบงานของตนเองให้ได้มากที่สุด และเปิดโอกาสในการพัฒนาภาวะผู้นำของพนักงานทุกคน 4.
จูงใจอย่างไร ให้ลูกน้องเต็มใจทำงาน | จ๊อบส์ดีบี ประเทศไทย
Create a jobsDB profile Increase your chances of getting hired. Update your jobsDB profile เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ วิธีบริหารพนักงานอาวุโส โค้ชชิ่งอย่างไรให้พนักงานอยากทำงานเป็นทีม
ต้องมีความเสมอต้นเสมอปลาย 2. ไม่มีอคติต่อลูกน้อง 3. อย่าตำหนิลูกน้องลับหลัง 4. ทำให้เขารู้ว่าเขากำลังอยู่ ณ จุดใด 5. ให้คำชมเชยในเวลาที่เหมาะสม 6. ให้ข่าวสารลูกน้องล่วงหน้าทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งกระทบพวกเขา 7. ห่วงใยผู้ใต้บังคับบัญชา 8. มองคนที่ผลงาน มิใช่วิธีปฏิบัติงาน 9. ออกนอกเส้นทางของตนเองเพื่อช่วยผู้อื่น 10. รับผิดชอบต่อผู้อื่น 11. ให้ลูกน้องแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ให้อิสระแก่เขา 12. ทำให้ลูกน้องขยันขันแข็ง 13. รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา 14. พร้อมที่จะเรียนรู้จากผู้อื่น 15. แสดงความเชื่อมั่นตนเอง 16. เปิดให้แสดงความคิดเห็น 17. แบ่งสรรและมอบหมายงาน 18. เร่งเร้าให้เกิดความฉลาดและสร้างสรรค์ 19. สอนงานอย่างเต็มใจ 20. แก้ปัญหาให้โดยไม่ตำหนิอย่างรุนแรง
cit. p. 327) อาจกล่าวถึงบทบาทสำคัญของการควบคุมได้ว่า อยู่ที่คำ 4 คำ ได้แก่ มาตรฐาน (Standard) การวัดผล (Measurement) การเปรียบเทียบ (Comparison) และการปฏิบัติ (Take Action) โดยการควบคุมจะครอบคลุมดูแลพื้นที่ 4 พื้นที่ใหญ่ๆ ของการบริหาร (Stephen P. Robbins, Managing Today, 1997, p. 391) กล่าวคือ พฤติกรรมบุคคลในองค์กร การเงิน การปฏิบัติการ และ ข้อมูลข่าวสาร ทรัพยากรประกอบด้วย มนุษย์ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ การเงิน ตลอดจนทรัพยากรข้อมูลขององค์กร Key of Operation Management หลักการจัดการการปฏิบัติการ หลักประการ 10 1. การจัดการคุณภาพ 2. การออกแบบสินค้าและบริการ 3. การออกแบบกระบวนการและกำลังการผลิต 4. กลยุทธ์ทำเลที่ตั้ง และการพยากรณ์ 5. กลยุทธ์การออกแบบผังโรงงาน 6. การออกแบบงานและทรัพยากรมนุษย์ 7. การจัดการเครือข่ายปัจจัยการผลิต 8. การจัดการสินค้าคงคลัง 9. การกำหนดตาราง 10. การบำรุงรักษา อ้างอิงจากเว็บไซ์: ุ้
ดื่มน้ำหนึ่งแก้วทันทีหลังจากตื่นนอน น้ำจะช่วยทำให้กระบวนการเผาผลาญของร่างกายดีขึ้นและยังช่วยในการขับถ่ายได้สะดวก นอกจากนั้นยังทำให้สมองของเราสดชื่นและตื่นตัวมากขึ้นอีกด้วย 2. ไม่ควรนอนต่อ การนอนต่อจะทำให้เรายิ่งไม่อยากที่จะลุกจากที่นอน เผลอๆ อาจจะหลับเพลิน และพลาดภารกิจสำคัญในวันนั้นไปเลยก็ได้ ทางที่ดีก็คือ เมื่อตื่นแล้วควรลุกขึ้นจากที่นอนทันที 3. เปิดเพลงให้ดัง หลังจากลุกขึ้นมาจากที่นอนได้ แต่ยังรู้สึกงัวเงียอยู่ ขอแนะนำว่าให้เดินไปเปิดเพลง เพราะการเปิดเพลงโปรดที่มีจังหวะสนุกๆ จะช่วยทำให้เราสดใสและตื่นตัวมากขึ้น จากการศึกษาในเครื่อง PET สแกน พบว่าดนตรีจะช่วยกระตุ้นกระแสไฟฟ้าในสมองของเรา ทำให้สารต่างๆ อย่างโดฟามีน ออกมากระตุ้นอารมณ์และแรงจูงใจดีๆ ได้นั่นเอง 4. ออกกำลังกายตอนเช้า การออกกำลังกายนั้นส่งผลดีต่อสุขภาพและช่วยเพิ่มพลังในแต่ละวันให้กับเรา สำหรับหลายๆ คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังนั้นเพราะมีเหตุผล ข้ออ้างมากมายที่มาจากความขี้เกียจ อยากให้ลองเปลี่ยนมาใส่ชุดกีฬาเข้านอน อาจเป็นหนึ่งตัวช่วยที่ดีที่ทำให้คุณหมดข้อแก้ตัวที่จะลุกขึ้นมาออกกำลังกายในตอนเช้าได้ 5. ตากแดด แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้านั้นส่งผลต่อการทำงานของสมองเราโดยตรง หากว่าสมองของเราไม่ได้รับแสงแดดเลย อาจจะทำให้สมองของเรามึนงงได้ เราจึงควรออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้า เพื่อช่วยกระตุ้นสารแห่งความสุขและทำให้เรารู้สึกตื่นตัว 6.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์และคณะ (2545, น. 18-19) ได้รวบรวม ความหมายของคำว่า "การบริหารจัดการ" และ "การจัดการ" ได้ดังนี้ 1. คำว่า " การบริหาร " (Administration) จะใช้ในการบริหารระดับสูง โดยเน้นที่การกำหนดนโยบายที่สำคัญและการกำหนดแผนของผู้บริหารระดับสูง เป็นคำนิยมใช้ในการบริหารรัฐกิจ (Public Administration) หรือใช้ในหน่วยงานราชการ และคำว่า "ผู้บริหาร" (Administrator) จะหมาถึง ผู้บริหารที่ทำงานอยู่ในองค์กรของรัฐ หรือองค์กรที่ไม่มุ่งหวังกำไร (Schermerhorn, 1999, p. G-2) 2.
- การ จูงใจ ใน การ ทํา งาน excel
- หนังดังประจำวัน (20 - 24 กันยายน) - Pantip
- วิธีการจูงใจพนักงานให้มีความซื่อสัตย์ต่อองค์กร | จ๊อบส์ดีบี ประเทศไทย
- อิ โต อิ กา ว่า ชิม ปา กุ
- ร่วมทำบุญธรรมทาน เเละช่วยผู้ป่วยรพ. มูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศ ในพระบรมฯ | พลังจิต
- การ จูงใจ ใน การ ทํา งาน photoshop
- การจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา - GotoKnow
- Adecco Thailand - เทคนิคการสร้าง TRUST ในทีม - 13 สิ่งที่หัวหน้าควรทำหากอยากได้ใจลูกน้อง
- เน เวอร์ แบค ดาว 3.6
เปิดใจฟังลูกน้อง ( Listen First) คำพูดของหัวหน้ามีผลต่อลูกน้องมาก ดังนั้นก่อนที่จะพูดอะไรจึงควรฟังก่อนพูดและคิดให้ดี เมื่อลูกน้องพูดอะไร นอกจากใช้หูของคุณในการฟังแล้ว คุณอาจต้องใช้ตาและใจในการฟังด้วย ลองเปิดใจรับฟัง สังเกต และพิจารณาถึงเหตุผลในการกระทำของลูกน้อง แล้วลองพยายามทำความเข้าใจให้มากขึ้นอีกสักนิด อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุป เพราะเราอาจไม่ได้รู้ดีที่สุดในทุกๆ เรื่อง 12. รักษาคำพูด ( Keep Commitments) การรักษาคำพูดและรักษาสัญญาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อะไรที่เคยพูดหรือสัญญาไว้กับลูกน้องต้องทำให้ได้ แต่หากทำไม่ได้จริงๆ ก็ต้องหาทางอธิบายให้ลูกน้องเข้าใจ ดังนั้นอย่าพยายามสัญญาอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อคุณผิดสัญญาหรือผิดคำพูดบ่อยๆ ก็จะทำให้ลูกน้องรู้สึกว่าคุณเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ 13. ให้ความไว้วางใจลูกน้องเพิ่มขึ้น ( Extend Trust) หากลูกน้องคนไหนสามารถทำผลงานได้ดี และคุณรู้สึกว่าไว้วางใจได้ ก็ให้ขยายขอบเขตความไว้วางใจในการทำงานมากขึ้น ให้อิสระในการทำงานกับเขาเพิ่มขึ้น ปล่อยให้เขาได้ทำงานและตัดสินใจเอง สำหรับคนที่คุณยังไม่ค่อยไว้วางใจนักก็พิจารณาให้เขาเป็นครั้งๆ เป็นงานๆ ไป การทำแบบนี้จะช่วยทำให้ลูกน้องรู้สึกว่าคุณไว้วางใจในตัวเขา และช่วยให้ trust ในทีมค่อยๆ เพิ่มขึ้น ส่วนสิ่งที่หัวหน้าควรหลีกเลี่ยงคือการ micro managing เกินความจำเป็น และการกระจายหน้าที่ความรับผิดชอบให้โดยไม่ให้อำนาจในการตัดสินใจกับลูกน้อง ซึ่งจะเป็นการบั่นทอนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
แก้ง่วงในที่ทำงานอย่างไร…โดยไม่ต้องพึ่งกาแฟ คุณเคยง่วงนอนในที่ทำงานจนอยากจะใช้ไม้จิ้มฟันถ่างตาตัวเองหรือไม่? ถ้าหากว่าคุณกำลังพยายามหยุดนิสัยติดกาแฟให้ได้ภายในปีนี้ คุณทำมันได้อย่างแน่นอน!! คราวนี้ เมื่อคุณรู้สึกง่วงนอน ก็ไม่จำเป็นต้องเดินไปที่เครื่องทำกาแฟเพื่อชงกาแฟเข้มๆ สักแก้วให้ตัวเองอีกต่อไป แต่ให้ปฏิบัติตามเคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อให้วันทำงานของคุณดำเนินไปได้ด้วยดีโดยปราศจากกาแฟ 1. เดินไปเดินมา จากการศึกษา พบว่า การเดินเป็นเวลา 20 นาทีสามารถเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายของคุณให้สูงขึ้นได้และลดอาการอ่อนล้าให้หมดไป การออกกำลังกายประเภทที่มีแรงกระแทกน้อยจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกอ่อนล้าน้อยกว่าการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกมาก ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องเดินแบบเอาเป็นเอาตายเพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจนทันที นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบด้วยว่าผู้ที่ได้ออกกำลังกายจะสามารถนอนหลับได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย (และจึงไม่ง่วงนอนในที่ทำงานนั่นเอง) วิธีการ: เพียงแค่คุณสวมรองเท้าที่ให้ความรู้สึกสบายๆ สักคู่และเดินด้วยระยะก้าวปานกลางเท่านั้นเอง!! ซึ่งการเดินเช่นนี้เพียง 20 นาทีก็สามารถช่วยเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายของคุณได้แล้ว 2.